การปรับปรุงเปลี่ยนแปลงและแนวทางอนุรักษ์วัฒนธรรมไทยที่ดีงาม
วัฒนธรรม เป็นสิ่งที่คนในสังคมยึดถือปฏิบัติสืบต่อกันมาเป็นเวลานาน
จนกลายเป็นมรดกทางสังคม แต่เนื่องด้วยยุคสมัยเปลี่ยนไป
ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางสังคมวัฒนธรรม
ดังนั้นการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงวัฒนธรรมจึงเป็นสิ่งสำคัญ
เพราะวัฒนธรรมที่ไม่ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อปนะเทศ
ย่อมจะเป็นอุปสรรคต่อการสร้างความเจริญก้าวหน้าของประเทศ
การปรับปรุงเปลี่ยนแปลงวัฒนธรรมไทย
๑.การทำงาน คนไทยมักทำงานจับจด
ชอบทำงานสบายที่ได้เงินดีโดยไม่ต้องเปลืองแรง มักโทษโชคชะตาที่ไม่เข้าข้างตน
ไม่มีระเบียบวินัย สิ่งที่ต้องสร้างให้เกิดขึ้น คือ
๑.๑
ความขยันและอดทน ทำงานหนัก และพึ่งตนเอง พื้นฐานของความสำเร็จของชีวิตและสังคมจะขึ้นอยู่กับความขยันและอดทนของแต่คนเป็นสำคัญ
ในระบบการศึกษาของชาติที่พัฒนา เช่น ยุโรป สหัฐอเมริกา และญี่ปุ่น
ได้สอนให้คนในชาติขยัน อดทน ทำงานหนักมาตั้งแต่เด็ก
ต้องอดทนต่อการเรียนอย่างเต็มที่ ดังนั้นความสำเร็จจในการศึกษาของนักเรียนของชาติที่พัฒนาจึงขึ้นอยู่กับความขยัน
การอดทนและการทำงานหนักของเด็ก
๑.๒ การมีระเบียบวินัย
ในสถาบันศึกษาต้องสอนให้เด็กปฏิบัติตามระเบียบวินัยอย่างเคร่งครัด ตั้งใจเรียน
แต่งกายถูกระเบียบ ไม่คุยกันหรือใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่ขณะอยู่ในห้องเรียน
ซึ่งผลที่จะเกิดขึ้นคือเด็กจะกลายเป็นผู้ใหญ่ที่มีระเบียบวินัย
๒.ความเป็นระบบและบูรณาการ
สังคมไทยจะสอนให้คนมองแบบอยกส่วน
ไม่เชื่อมต่อกัน ไม่นิยมการทำงานร่วมกันเป็นกลุ่ม สิ่งที่ควรปรับเปลี่ยนคือ
การมองสิ่งต่างๆ ให้มีความสัมพันธ์เชื่อมโยงกัน เช่นศิลปะ ดนตรี พลศึกษา
การทำงานบ้าน การบำเพ็ญประโยชน์ การทำงานร่วมกับชาวบ้าน ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
ฯลฯ ควรนำมาเชื่อมโยงและชี้ให้เนถึงความสำคัญ
ที่เท่าเทียมกันกับวิชาในชั้นเรียนกล่าวคือ ในกระบวนการเรียนการสอน
นักเรียนจะต้องถูกเข้มงวดในเรื่องวิชาการ แต่ในขณะเดียวกัน
นักเรียนจะต้องเคร่งครัดในเรื่อวหารทำกิจกรรมนในโรงเรียน สอนให้รักธรมมชาติ
สอนให้ช่วยพ่อแม่ทำงานบ้าน อบรมการเข้ากลุ่ม และการเป็นเพื่อนที่ดี
๓.ระบบอุปถัมภ์
ความสัมพันธ์ในลักษณะของการออุปถัมภ์ค้ำจุนกันระหว่างบุคคลในสังคมไทยถือเป็นวัฒนธรรมที่หนั่งรากฝังลึกกันมานาน
การคัดเลือกบุคคลเข้าทำงานมักแต่งตั้งจากผู้อยู่ใกล้ชิด
หรือคนที่โปรดปรานเป็นพิเศษ โดยไม่ได้คำนึงถึงความรู้ความสามารถของบุคคลเป็นเกณฑ์
มีการแลกเปลี่ยนผลประโยชน์ซึ่งกันและกัน
ด้วยเหตุนี้จึงทำให้การพัฒนาประเทศไทยไม่ก้าวไปข้างหน้าเท่าที่ควร
ดังนั้นจึงควรมีการเปลี่ยนแปลงวัฒนธรรมระบบอุปถัมภ์ให้เป็นระบบคุณธรรม
ดังเช่นที่มีการใช้กันทั่วไปในประเทศพัฒนา ได้แก่
ยึดถือความรู้ความสามารถเป็นเกณฑ์ในการคัดเลือกบุคคล
ปฏิบัติต่อบุคคลอย่างเสมอกน้ากันโดยใช้ระเบียบและมาตรฐานเดียวกัน
เปิดโอกาสให้ทุกคนอย่างเท่าเทียมกัน ยึดมั่นในเส้นทางที่ถูกต้อง
และเป็นประโยชน์ต่อส่วนรวม
4.การฉ้อราษฏร์บังหลวง ในสังคมไทยการฉ้อบังหลวงเป็นปัญหาที่เรื้อรังมานาน
ซึ่งเป็นพฤติกรรมที่ทราบกันโดยทั่วไป
เช่นการจ่ายสินบนเพื่อให้ได้การผูกขาดกิจการปางประเภท การยักยอกเงินค่าธรรมเนียมโดยไม่นำเงินส่งหน่วยงาน การรับเงินค่านายหน้า เมื่อมีการจัดซื้อของให้หน่วยงาน การสมยอมกันในการจัดซื้อจัดจ้าง หรอให้สิทธิในการดำเนินการเพื่อจัดหาสินค้าและบริการสาธารณะ อันทำให้มิได้มีการแข่งขันเสนอประโยชน์สูงสุดแก่หน่วยงานของรัฐ และประเทศชาติอย่างแท้จริง
แนวทางการอนุรักษ์วัฒนธรรมไทย
1.บุคคลซึ้งรวมกันเป็นชุมชนท้องถิ่นดั้งเดิมย่อมมีสิทธิอนรักษ์หรือฟื้นฟูจารีตประเพณี ภูมิปัญญาท้องถิ่นศิลปะวัฒนธรรมหรือวัฒนธรรมของชาติและมีส่วนร่วมในการจัดการ การยำรุงรักษา และการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมอย่างสมดุลและยั่งยืน
2.บุคคลมีหนา้ที่ป้องกันประเทศ รับราชการ และเสียภาษีอากร ช่วยเหลือราชการ รับการศึกษาอบรมพิทักษ์ ปกป้องและสืบสานศิลปวัฒนธรรมของชาติและภูมิปัญญาท้องถิ่น อนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ทั้งนี้ ตามที่กฏหมายบัญญัติ
3.รัฐต้องจัดการศึกษาอบรมและสนับสนุนให้เอกชนจัดการศึกษาอบรมให้เกิดความรู้คู่วัฒนธรรม จัดให้มีกฏหมายเกี่ยวกับการศึกษาแห่งชาติ ปรับปรุงการศึกษาให้สอดคล้องกับความเปลี่นยแปลงทางเศรษฐกิจและสังคม สร้างเสริมความรู้และปลูกฝังจิตสำนึกที่ถูกต้องเกี่ยวกับการเมืองการปกคริงในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
4.องค์ประกอบครองส่วนท้องถิ่นย่อมมีหน้าที่บำรุงรักษาศิลปะ จารีตประเพณี ภูมิปัญญาท้องถิ่น หรือวัฒนธรรมอันดีของท้องถิ่น องค์กรปกครองส้วนท้องถิ่นย่อมมีสิทธิที่จะจัดการศึกษาอบรม และการฝึกอาชีพตามความเหมาะสมและความต้องการภายในท้องถิ่นนั้นและเข้าไปมีส่วนร่วมในการจัดการศึกษาอบรมของรัฐซึ่งการจัดการศึกษาอบรมภายในท้องถิ่น
ดังนั้นการรักษาและส่งเสริมวัฒนธรรมและภูมิปัญญาไทยก็คือ
1) ส่งเสริมวัฒนธรรมและภูมิปัญญาไทยให้ดำรงคงอยู่อย่างยั่งยืนและมีพัฒนาการที่ดี
2) ศึกษา ค้นคว้า และวิจัยเกี่ยวกับวัฒนธรรรมและภูมิปัญญาไทยเพื่อนำมาใช้ในการดำเนินชีวิต
3) สร้างความรู้ ความเข้าใจ และความตระหนักในความสำคัญของของวัฒนธรรม
4) ปฏิบัติตนตามกรอบที่ดีงามของวัฒนธรรมไทย ทั้งต่อคนไทยด้วยกัน และต่อชาวต่างประเทศ โดยเฉพาะการแสดงต่อชาวต่างชาติจะเป็นสิ่งที่มีความสำคัญมาก
5) เผยแพร่วัฒนธรรมและภูมิปัญญาไทยของทุกท้องถิ่นไปให้ประชาชนไทยทั้งประเทศได้รับรู้อย่างกว้างขวาง
6) สนับสนุนส่งเสริมให้มีการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมและภูมิปัญญาไทยกับต่างประเทศ เพื่อส่งเสริมสร้างความเข้าใจอันดีระหว่างประเทศ
7) วางมาตรการให้หน่วยงานของรัฐและของเอกชน ที่ดำเนินงานด้านวัฒนธรรมและภูมิปัญญาไทย ได้ประสานงานกันอย่างใกล้ชิด
วัฒนธรรมไทยจะดำรงอยู่ได้ก็ด้วยมีการเผยแพร่และสืบทอดต่อกันมา ที่สำคัญคือ คนรุ่นหลังต้องซึมซับ
ในปัจจุบันได้มีการนำวัฒนธรรมไทยมาใช้ในขอบเขตที่กว้างขวางขึ้น เช่น สมุนไพร การรักษาโรค การช่าง ศิลปะการแสดง ครอบครัว การศึกษา นันทนาการ ศาสนา ภาษาและการสื่อสาร วิทยาศาสตร์ การเมือง การบริหารเป็นต้น
วัฒนธรรมถือเป็นมรดกทางสังคม และเป็นสิ่งที่แสดงถึงเอกลักษณ์ของความเป็นชาติ
2.บุคคลมีหนา้ที่ป้องกันประเทศ รับราชการ และเสียภาษีอากร ช่วยเหลือราชการ รับการศึกษาอบรมพิทักษ์ ปกป้องและสืบสานศิลปวัฒนธรรมของชาติและภูมิปัญญาท้องถิ่น อนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ทั้งนี้ ตามที่กฏหมายบัญญัติ
3.รัฐต้องจัดการศึกษาอบรมและสนับสนุนให้เอกชนจัดการศึกษาอบรมให้เกิดความรู้คู่วัฒนธรรม จัดให้มีกฏหมายเกี่ยวกับการศึกษาแห่งชาติ ปรับปรุงการศึกษาให้สอดคล้องกับความเปลี่นยแปลงทางเศรษฐกิจและสังคม สร้างเสริมความรู้และปลูกฝังจิตสำนึกที่ถูกต้องเกี่ยวกับการเมืองการปกคริงในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
4.องค์ประกอบครองส่วนท้องถิ่นย่อมมีหน้าที่บำรุงรักษาศิลปะ จารีตประเพณี ภูมิปัญญาท้องถิ่น หรือวัฒนธรรมอันดีของท้องถิ่น องค์กรปกครองส้วนท้องถิ่นย่อมมีสิทธิที่จะจัดการศึกษาอบรม และการฝึกอาชีพตามความเหมาะสมและความต้องการภายในท้องถิ่นนั้นและเข้าไปมีส่วนร่วมในการจัดการศึกษาอบรมของรัฐซึ่งการจัดการศึกษาอบรมภายในท้องถิ่น
ดังนั้นการรักษาและส่งเสริมวัฒนธรรมและภูมิปัญญาไทยก็คือ
1) ส่งเสริมวัฒนธรรมและภูมิปัญญาไทยให้ดำรงคงอยู่อย่างยั่งยืนและมีพัฒนาการที่ดี
2) ศึกษา ค้นคว้า และวิจัยเกี่ยวกับวัฒนธรรรมและภูมิปัญญาไทยเพื่อนำมาใช้ในการดำเนินชีวิต
3) สร้างความรู้ ความเข้าใจ และความตระหนักในความสำคัญของของวัฒนธรรม
4) ปฏิบัติตนตามกรอบที่ดีงามของวัฒนธรรมไทย ทั้งต่อคนไทยด้วยกัน และต่อชาวต่างประเทศ โดยเฉพาะการแสดงต่อชาวต่างชาติจะเป็นสิ่งที่มีความสำคัญมาก
5) เผยแพร่วัฒนธรรมและภูมิปัญญาไทยของทุกท้องถิ่นไปให้ประชาชนไทยทั้งประเทศได้รับรู้อย่างกว้างขวาง
6) สนับสนุนส่งเสริมให้มีการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมและภูมิปัญญาไทยกับต่างประเทศ เพื่อส่งเสริมสร้างความเข้าใจอันดีระหว่างประเทศ
7) วางมาตรการให้หน่วยงานของรัฐและของเอกชน ที่ดำเนินงานด้านวัฒนธรรมและภูมิปัญญาไทย ได้ประสานงานกันอย่างใกล้ชิด
วัฒนธรรมไทยจะดำรงอยู่ได้ก็ด้วยมีการเผยแพร่และสืบทอดต่อกันมา ที่สำคัญคือ คนรุ่นหลังต้องซึมซับ
ในปัจจุบันได้มีการนำวัฒนธรรมไทยมาใช้ในขอบเขตที่กว้างขวางขึ้น เช่น สมุนไพร การรักษาโรค การช่าง ศิลปะการแสดง ครอบครัว การศึกษา นันทนาการ ศาสนา ภาษาและการสื่อสาร วิทยาศาสตร์ การเมือง การบริหารเป็นต้น
วัฒนธรรมถือเป็นมรดกทางสังคม และเป็นสิ่งที่แสดงถึงเอกลักษณ์ของความเป็นชาติ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น